‘ตั้งชื่อลูก’ ให้น่ารักโดนใจ ความหมายดี-มีเกร็ดความเชื่อจากทั่วโลก!


ชื่อน่ารัก ๆ มีเป็นร้อย แต่สำหรับลูกน้อยของคุณพ่อ-คุณแม่แค่ความคิวท์คงไม่พอ เพราะความหมายของการตั้งชื่อลูกต้องช่วยเสริมสิริมงคลให้ลูกน้อยBurt’s Bees รวมเกร็ดความเชื่อเรื่องการตั้งชื่อลูกจากทั่วโลกมาเป็นทางเลือกสำหรับว่าที่คุณพ่อ-คุณแม่มือใหม่ ว่าแต่ประเทศอื่น ๆ ให้ความสำคัญกับการตั้งชื่อลูกมากแค่ไหนแล้วชื่อลูกรักในภาษาใดจะเหมาะสมกับเจ้าตัวน้อยของคุณกันบ้าง ออกเดินทางไปกับเรื่องราวเหล่านี้ได้เลยค่ะ


เกร็ดความเชื่อเรื่องการตั้งชื่อลูกของคนทั่วโลก

ย้อนกลับไปหลายพันปีก่อน ชาวอินเดียเชื่อว่าเด็กที่ถือกำเนิดบนโลกจะอยู่ภายใต้อิทธิพลของจักรราศี โดยยึดตามตำราทำนายดวงชะตาโบราณที่เชื่อกันว่า ดวงดาวมีอำนาจในการกำหนดลักษณะนิสัยของเด็กและสามารถทำนายอนาคตของพวกเขาได้ด้วย พ่อแม่หลายคนจึงเลือกที่จะตั้งชื่อลูกตามคัมภีร์นักษัตร (Nakshatra)ส่วนชาวคริสต์จะตั้งชื่อลูกโดยอ้างอิงกับชื่อของนักบุญหรือชื่อในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล

แม้หลักการตั้งชื่อลูกของคนทั่วโลกจะแตกต่างกันตามความเชื่อ ค่านิยม และวัฒนธรรม แต่คนไทยก็สามารถนำชื่อในภาษาต่าง ๆ มาครีเอทเป็นชื่อจริงและชื่อเล่นของลูกน้อยได้อย่างน่ารัก Burt’s Bees จึงรวมไอเดียดีๆ ในการตั้งชื่อลูกสำหรับว่าที่คุณพ่อ-คุณแม่มาฝากกันค่ะ 


หลักการตั้งชื่อลูกสไตล์ไทย ๆ

คนไทยมีหลักในการตั้งชื่อลูกที่เป็นไปในแนวทางเดียวกับชาวเอเชียชาติอื่น ๆ นิยมให้พระและหมอดูเป็นคนตั้งชื่อให้เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยมีตำรา‘ภูมิทักษา’ หรือ‘มหาทักษา’เป็นหลักการตั้งชื่อตามวันเกิดที่คนไทยยึดถือมากที่สุด คำว่า‘ทักษา’ หมายถึง พระเคราะห์ทั้ง 8 ได้แก่ พระอาทิตย์ พระจันทร์ พระอังคาร พระพุทธ พระเสาร์ พระพฤหัสบดี พระราหู และพระศุกร์ (ตามลำดับตัวเลข) เชื่อกันว่า เทวดาแต่ละองค์ต่างก็ประจำอยู่ตามทิศต่าง ๆ ที่เป็นทิศเกิดของมนุษย์

หลักการตั้งชื่อลูกตามหลักโหราศาสตร์ไทยมีหัวใจสำคัญอยู่ 8 ประการด้วยกันนั่นคือ 1. บริวาร (ครอบครัวและคนใกล้ชิด) 2. อายุ (การเป็นอยู่ สุขภาพ) 3. เดช (อำนาจ บารมี ชื่อเสียง ลาภยศ) 4. ศรี (โชคลาภ ความสำเร็จ เมตตามหานิยม) 5. มูลละ (ทรัพย์สิน เงินทอง ความมั่นคั่ง) 6. อุตสาหะ (ความขยันหมั่นเพียรและความสำเร็จ) 7. มนตรี (ผู้ใหญ่ให้การสนับสนุน ค้ำจุน ช่วยเหลือ)และ8. กาลกิณี (ตัวอักษรไม่มงคล นำมาซึ่งความทุกข์ เคราะห์ภัย และเรื่องไม่ดีในชีวิต) นอกจากนี้ การตั้งชื่อยังต้องเลือกการใช้พยัญชนะให้เหมาะสมกับแต่ละวัน เพื่อให้เสริมดวงให้ลูกน้อย เริ่มต้นชะตาชีวิตได้อย่างมั่นคงสดใสตั้งแต่ยังแบะเบาะนั่นเอง





ตั้งชื่อเล่นลูก ‘ภาษาญี่ปุ่น’

ชาวกรีกกับชาวญี่ปุ่นมีพิธีตั้งชื่อลูกที่คล้ายกัน ชาวกรีกโบราณเชื่อว่าจะต้องรอให้ครบ 7 หรือ 10 วันหลังคลอดถึงจะตั้งชื่อให้กับลูกน้อย เช่นเดียวกับความเชื่อของชาวญี่ปุ่นที่มีพิธีตั้งชื่อลูกเมื่ออายุ 7 วันหลังคลอดที่เรียกว่า ‘เมย์เมย์’ (MeiMei) หรือ Shichiya Ceremony โดยชาวญี่ปุ่นมีหลักในการตั้งชื่อลูกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการให้พระหรือหมอดูตั้งชื่อ (คล้ายกับคนไทย) การตั้งชื่อตามอักษรคันจิ การออกเสียง การนำอักษรคันจิในชื่อของพ่อแม่หรือบรรพบุรุษมาตั้งในชื่อ การนับเส้นคันจิเพื่อสิริมงคล ตั้งตามสมัยนิยม กระทั่งตั้งชื่อลูกตามฤดูกาล เช่น เด็กเกิดหน้าร้อนชื่อ ‘ไคโตะ’ ฤดูใบไม้ผลิชื่อ ‘อุราระ’ ตั้งชื่อตามสิ่งที่พ่อแม่อยากให้เป็น เช่น หากอยากให้ลูกโชคดีจะตั้งชื่อว่า ‘เมกุมิ’ อยากให้ลูกร่าเริงสดใสชื่อ ‘เอมิ’ และถ้าอยากให้ลูกมีความอดทนมักจะตั้งชื่อ ‘ชิโนบุ’ เป็นต้น





ตั้งชื่อเล่นลูก ‘ภาษาจีน’

ชาวจีนที่เชื่อว่า การตั้งชื่อลูกเป็นการเสริมดวงชะตาให้ลูกน้อยมีอนาคตที่สดใส ชาวจีนนิยมให้ซินแสตั้งชื่อลูก บางตำราเชื่อว่าเด็กที่เกิดมาจะมีความพร่องของธาตุทั้ง 4 (ดิน น้ำ ลม ไฟ) การตั้งชื่อจะช่วยปรับสมดุลธาตุควบคู่กับเสริมดวงชะตาให้ทารกได้อย่างดี 




หวังว่า คุณพ่อ-คุณแม่ป้ายแดงจะสนุกกับการตั้งชื่อลูกที่มีความหมายดี พร้อมนำไอเดียดี ๆ จาก Burt’s Bees ผู้นำผลิตภัณฑ์ธรรมชาติยอดนิยมอันดับหนึ่งจากอเมริกา เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการตั้งชื่อลูกน้อยกันนะคะ


join THE HIVE

New Hive members receive free shipping on your next purchase!

Become a Hive Member to be the first to learn about special offers, helpful tips and the latest buzz.

Shopping Bag

total(inc. vat) : 0
Shipping : --
est. total : 0.00
Continue Shopping