รู้ได้ยังไงว่า “ผิวแพ้ง่าย” หรือ “ผิวเซนซิทีฟ” กันแน่ ?
เคยสงสัยมั้ยว่า คุณมี “ผิวแพ้ง่าย” หรือ “ผิวเซนซิทีฟ” ที่ทำให้ไวต่อการระคายเคือง ? ผิวสองอย่างนี้ไม่เหมือนกันหรือ ? ทำไมผิวจึงแพ้และระคายเคืองง่าย ? วัย-นอนน้อย-ฮอร์โมน ทำให้ผิวขาดสมดุลและอ่อนแอหรือที่แท้เรา Born to Be จนยากจะรับมือ
ก่อนอื่นคุณต้องแยกความแตกต่างระหว่าง “ผิวแพ้ง่าย” กับ “ผิวไวต่อการระคายเคือง” หรือที่เรียกว่า “ผิวเซนซิทีฟ” (Sensitive Skin) เสียก่อน เพราะผิวทั้งสองแบบนี้มักจะแสดงออกใกล้เคียงแต่ไม่เหมือนกันซะทีเดียว ซึ่งปัจจุบันคนส่วนใหญ่มีผิวที่ไวต่อการระคายเคือง เนื่องจากส่วนผสมที่อยู่ในสกินแคร์หรือเมคอัพต่าง ๆ บวกกับผิวที่โดนทำร้ายจากมลภาวะรอบตัวและรังสียูวีในแสงแดด ส่วนจะแพ้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ทำให้ผิวของเราแตกต่างกัน นั่นคือ
- น้ำในผิว : ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นและยืดหยุ่น
- น้ำมันในผิว : ช่วยเพิ่มความนุ่มละมุน
- ความไวของผิวต่อการระคายเคืองต่าง ๆ ส่งผลให้ผิวขาดสมดุลและแพ้ง่าย
“ผิวแพ้ง่าย” VS “ผิวเซนซิทีฟ” ต่างกันตรงไหน ?
แม้ผิวแพ้ง่ายและไวต่อการระคายเคืองเป็นของคู่กัน แต่จริง ๆ แล้วความซับซ้อนของปัญหาแตกต่างกัน คนส่วนใหญ่ร้อยละ 80-90 มี “ผิวไวต่อการระคายเคือง” (Irritant Contact Dermatitis) ซึ่งเกิดจากส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่าง ๆ ในเครื่องสำอางและสกินแคร์ เช่น แอลกอฮอลล์ น้ำหอม สบู่ พาราเบน กรดผลไม้ ฯลฯ และผิวที่เพิ่งผ่านการทำเลเซอร์ทำให้ผิวชั้นนอกอ่อนแอ
เมื่อทำการตรวจสภาพผิวด้วยเครื่องมือจะพบว่า ผิวไวต่อการระคายเคืองมีการจัดเรียงชั้นผิวที่ไร้ระเบียบ ผิวชั้นนอกขาดความสมบูรณ์และชุ่มชื่น ทำให้ผิวแห้งลอกและเกิดผื่นคันได้ง่าย แต่เมื่อล้างหน้าออกแล้วอาการแพ้หรือผื่นคันจะดีขึ้นและหายได้เอง บางครั้งใช้ครีมกระปุกเดิมแต่กลับเกิดอาการแพ้หรือผื่นคัน ทั้งที่ก่อนหน้านั้นไม่เคยแพ้เลยก็ตาม ซึ่งมักจะเกิดเฉพาะผิวบางจุดของใบหน้าเท่านั้น บวกกับอายุที่มากขึ้น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน สภาพอากาศ การอาบน้ำอุ่นเป็นประจำ อยู่ในห้องแอร์ที่อากาศแห้ง ผิวโดนทำร้ายด้วยรังสียูวีในแสงแดด ทำให้ระดับความรุนแรงของการระคายเคืองแตกต่างกัน
ส่วนผิวแพ้ง่าย (Allergic Contact Dermatitis) พบได้ร้อยละ 10-20 สังเกตได้จาก เวลาทาครีมบำรุงหรือเมคอัพที่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ร่างกายจะสร้างแอนตี้บอดี้เพื่อต่อต้านและแสดงออกด้วยการเกิดผื่นคัน แสบแดง สิวผด หรือสิวอักเสบ ซึ่งอาการแพ้สามารถลงลึกถึงผิวชั้นกลาง (Dermis) เลยทีเดียว ล้างหน้าแล้วก็ไม่หายต้องรับประทานยาควบคู่กับการรักษาของแพทย์ และไม่ว่าจะทาผลิตภัณฑ์นั้นลงบนส่วนใดของร่างกายก็ทำให้เกิดอาการแพ้ได้หมด ซึ่งผิวแพ้ง่ายไม่จำเป็นต้องอ่อนแอเสมอไป ผิวแพ้ง่ายจึงเป็นอาการเฉพาะบุคคลซึ่งต้องทำการทดสอบด้วย Patch Test ถึงจะระบุได้ว่า คุณมีอาการแพ้สารเคมีหรือส่วนผสมใดบ้างและควรหลีกเลี่ยงส่วนผสมนั้น ๆ ที่อยู่ในสกินแคร์หรือเครื่องสำอางนั่นเอง
หยุดเป็นคน (ผิว) ขี้แพ้ มาเป็นสาวสตรองกันดีกว่า!
ไม่ว่าคุณจะมีผิวแพ้ง่ายหรือผิวเซนซิทีฟ สิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกสกินแคร์อยู่ที่การหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการแพ้หรือระคายเคือง โดยเฉพาะส่วนผสมจากธรรมชาติที่อ่อนโยนต่อผิวและเสริมสร้างความแข็งแรงให้โครงสร้างผิวเรียงตัวกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ และมีส่วนผสมที่เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวได้ยาวนาน ไม่ทำให้ผิวไวต่อการแพ้และระคายเคือง เช่นเดียวกับ Burt’s Bees Sensitive Collection การันตีด้วยรางวัลจาก National Eczema Association (NEA) Seal of Acceptance ™ ปี 2018 และยืนยันผ่านการทดสอบความปลอดภัยของส่วนผสม โดยสมาคมโรคผิวหนังอักเสบของอเมริกาว่า เหมาะสำหรับดูแลผิวบอบบาง ผิวเซนซิทีฟ และแพ้ง่าย ปราศจากสารก่อการระคายเคืองผิว และไม่ทำให้อุดตันรูขุมขน พร้อมส่วนผสมที่ช่วยปรับโครงสร้างผิวให้แข็งแรง
เซ็ตนี้ดีอย่างไรบ้าง ? ขอบอกว่า ส่วนผสมที่เราคัดสรรมาจากธรรมชาติแท้ 99% เปี่ยมด้วยพลังของสารสกัดจากดอกฝ้าย (Cotton Extract) ที่ช่วยบำรุงผิวล้ำลึกและมอบความรู้สึกสบายให้แก่ผิว ช่วยลดการอักเสบของผิวและต่อต้านอนุมูลอิสระ สารสกัดจากข้าว (Rice Extract) ปกป้องผิวจากรอยผื่นแดง ว่านหางจระเข้ (Aloe) บรรเทาอาการระคายเคืองจากมลภาวะรอบตัว และสารสกัดจากไวท์ เจเนปิ (White Genepi Extract) มีฤทธิ์ต้านการอักเสบของผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แค่รู้ว่าผิวบอบบางของคุณเข้าข่าย “ผิวแพ้ง่าย” หรือ “ผิวเซนซิทีฟ” เพียงเท่านี้คุณก็เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวได้อย่างเหมาะสม พร้อมอวดผิวสวยแข็งแรงได้อย่างมั่นใจในแบบสาวสตรอง 2019 แล้วล่ะ!
