‘ผิวแห้ง’ หรือ ‘ผิวขาดน้ำ’ เข้าใจความต่าง เพื่อการดูแลอย่างสมบูรณ์แบบ
การลงทุนซื้อผลิตภัณฑ์กระปุกใหม่ของคุณจะเวิร์คสุด ๆ หากเข้าใจความต่างระหว่าง ‘ผิวแห้ง’ และ ‘ผิวขาดน้ำ’ เพราะทั้งสองประเภทนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งยังต้องการผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่แตกต่างกันอีกด้วย เช็คให้มั่นใจก่อนดีกว่าค่ะว่า คุณมีผิวแบบไหนกันแน่จะได้แก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด
ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจก่อนว่า ‘ผิวแห้ง’ (Dry Skin) เป็นประเภทของผิว เช่นเดียวกับผิวมัน ผิวธรรมดา และผิวผสม โดยคนที่มีผิวแห้งจะมีต่อมไขมันขนาดเล็กหรือน้อยกว่าผิวประเภทอื่น ๆ จึงผลิตน้ำมันเคลือบบนผิวได้น้อย สังเกตง่าย ๆ คนที่มีผิวแห้งจะรูขุมขนเล็ก มีริ้วรอยก่อนวัย ไม่ค่อยเป็นสิว ผิวแห้งลอกเป็นขุย แสบแดง และไวต่อการระคายเคือง ดังนั้น ผิวแห้งจึงต้องการผลิตภัณฑ์ที่ช่วย ‘ล็อคความชุ่มชื่น’ และมอยส์เจอไรเซอร์เข้มข้น เพื่อกักเก็บความชุ่มชื่นไว้ในผิวให้นานที่สุดและทำให้ Skin Barrier (กำแพงปกป้องเซลล์ผิวให้แข็งแรง) ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่สูญเสียความชุ่มชื่นจากการนั่งทำงานในห้องแอร์ แสงแดด มลภาวะ นั่นเอง
ส่วน ‘ผิวขาดน้ำ’ (Dehydrated Skin) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ‘ผิวแห้งเทียม’ เป็นสภาวะหนึ่ง (Skin Condition) ที่เกิดขึ้นได้กับผิวทุกประเภท เกิดจากการที่ร่างกายมีน้ำในผิวน้อยเกินไปหรือดื่มน้ำน้อยเกินไป ทำให้ผิวอ่อนแอและสูญเสียความยืดหยุ่น ผิวจึงหมองคล้ำ มีรอยคล้ำใต้ตา อาการคัน ริ้วรอยเล็กและร่องลึกชัดขึ้น
อีกหนึ่งอาการที่สร้างความสับสนอย่างมาก คือผิวขาดน้ำมักจะแห้งตึงหลังล้างหน้าเนื่องจากผิวสูญเสียความชุ่มชื่นและน้ำใต้ผิวลดลง ส่งผลให้ต่อมไขมันเร่งการผลิตน้ำมันเคลือบผิวเพื่อรักษาความชุ่มชื่น ทำให้ผิวมันเยิ้มระหว่างวันและต้องคอยซับหน้าบ่อย ๆ ทั้งยังเป็นช่วงเวลาที่ Skin Barrier อ่อนแอลง ผิวจึงแพ้ง่ายและไวต่อการระคายเคือง หลายคนจึงสับสนระหว่าง ‘ผิวแห้ง’ กับ ‘ผิวขาดน้ำ’ ทำให้คุณเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม ทั้งที่จริง ๆ แล้วคนที่มีผิวขาดน้ำควรเลือกผลิตภัณฑ์ ‘เติมน้ำให้ผิว’ แข็งแรงและชุ่มชื่นขึ้น รวมถึงการดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ผิวชุ่มชื่นและมีน้ำใต้ผิวมากขึ้นนั่นเอง
นอกจากนี้ คนที่นิยมใช้ AHA หรือกรดผลไม้ ผลัดเซลล์ผิวเป็นประจำ รวมถึงผลิตภัณฑ์ลอกผิวหน้า ขัดหน้า หรือสครับที่มีส่วนผสมของไมโครบีดส์ (พลาสติกขนาดจิ๋ว) และผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม พาราเบน พาทาเลตส์ SLS ที่ทำให้ผิวไวต่อการระคายเคือง ยังส่งผลให้อาการผิวขาดน้ำรุนแรงมากขึ้น ทำให้ผิวบาง แพ้ง่าย และไวต่อแสงแดด เท่ากับซ้ำเติมผิวให้อ่อนแอลงไปอีก แนะนำให้หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์เหล่านั้นและควรหันมาดูแลตัวเองด้วยการดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร นอนพักผ่อนให้เพียงพอ อย่านอนดึก และเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติที่อ่อนโยนต่อผิวจะดีกว่า
สำหรับคนที่มีผิวขาดน้ำ แนะนำให้แก้ปัญหาอย่างตรงจุดด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่อ่อนโยนต่อผิวอย่าง Burt’s Bees Intense Hydration ช่วยเติมน้ำให้ผิวชุ่มชื่นและฟื้นคืนความแข็งแรงให้เซลล์ผิวจากภายใน ให้ผิวชุ่มชื่นถึงขีดสุด นุ่มเนียน เปล่งประกาย และอ่อนเยาว์อยู่เสมอ ค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ ‘ใช่’ สำหรับผิวขาดน้ำได้ที่ >> https://bit.ly/2MviXeK
