“Plant-based
Squalane” ที่สุดของส่วนผสมเพื่อผิวอิ่มฟูดูอ่อนเยาว์ ที่ชาวบิวตี้นิสต้าเลิฟสุดๆ
หลายคนอาจจะเคยได้ยินส่วนผสมที่ชื่อว่า
“สควาเลน” (Squalane) กันบ้างแล้ว เพราะเป็นออยล์บำรุงผิวหน้าที่ดีที่สุดที่ร่างกายสามารถผลิตได้เองตามธรรมชาติเพื่อให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวทั่วเรือนร่าง
แต่เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายจะผลิตสควาเลนลดลงจึงทำให้ผิวแห้งกร้าน หมองคล้ำ ผิวไวต่อการระคายเคือง
และสังเกตเห็นริ้วรอยได้ชัดเจน
สควาเลนจึงกลายเป็นส่วนผสมยอดนิยมในวงการความงามเพื่อล็อคความชุ่มชื่นให้ผิวได้อย่างดีเยี่ยม
“สควาเลน” พบมากในพืช สัตว์ และร่างกายของคนเรา
ส่วนสควาเลนที่นิยมนำมาใช้ในสกินแคร์และเมคอัพมักจะนำมาจากพืช เช่น มะกอก
จมูกข้าวสาลี และรำข้าว เพราะมีสควาเลนสูงกว่าพืชชนิดอื่นๆ กระทั่งทีมนักวิทยาศาตร์ความงามของ
Burt’s Bees ค้นพบ Plant-based
Squalane หรือ “สควาเลนจากพืชธรรมชาติ” ที่ดีที่สุดจากอ้อย ที่เติบโตในแหล่งเพาะปลูกปลอดสารและส่งเสริมความยั่งยืนในประเทศบราซิล
เพราะเป็นสควาเลนที่มีโมเลกุลใกล้เคียงกับน้ำหล่อเลี้ยงผิวของคนเรามากที่สุด Plant-based
Squalane ชนิดนี้จึงเป็นผู้ช่วยมือหนึ่งในการเพิ่มความชุ่มชื่นและมอบผิวเด้งฟูดูอ่อนเยาว์จนคุณสังเกตได้
“สควาเลน”
ที่สุดของมอยส์เจอร์ไรเซอร์จากธรรมชาติ
อะไรก็ตามที่ผิวของคุณสามารถผลิตขึ้นได้เองตามธรรมชาติ
ย่อมเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดและปลอดภัยกว่าในฐานะส่วนผสมของสกินแคร์และเมคอัพ
สควาเลนก็เช่นกันค่ะ ประโยชน์สูงสุดของส่วนผสมจากธรรมชาติชนิดนี้คือ การปกป้องและกักเก็บความชุ่มชื่นไว้ในผิวได้อย่างดีเยี่ยม
ทั้งยังทำหน้าที่เป็นน้ำมันบำรุงผิวตามธรรมชาติอีกด้วย บวกกับสควาเลนจากอ้อยที่ได้จากบราซิลที่มีโมเลกุลใกล้เคียงกับร่างกายของคนเรา
ร่างกายจึงสามารถดูดซึมไปใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
จึงช่วยเติมมอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้ผิวอิ่มน้ำและชุ่มชื่นทันที
ทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์และสุขภาพดีขึ้นด้วย
ความเหมือนที่แตกต่างระหว่าง
“Squalene” กับ “Squalane”
หากคุณเป็นคนช่างสังเกตและชื่นชอบการอ่านฉลากเครื่องสำอางเป็นทุน
คุณจะเห็นคำว่า “Squalane” หลายชนิดบนฉลากบรรจุภัณฑ์ แต่หลายคนอาจจะสับสนระหว่าง “Squalane” (สควาเลน) และ “Squalene” (สควาลีน) โดย National Library of
Medicine อธิบายความแตกต่างของสองคำนี้ไว้ว่า “สควาลีน” เป็นน้ำมันธรรมชาติที่พบได้ในน้ำมันจากปลาบางชนิดและพบมากในน้ำมันที่ได้จากตับปลาฉลาม
รวมถึงน้ำมันจากพืชบางชนิด (มะกอก รำข้าว เมล็ดผักโขม และจมูกข้าวสาลี) รวมถึงซีบัมของมนุษย์
(น้ำมันที่ผิวผลิตขึ้นเองตามธรรมชาติ) จะมีสควาลีนประมาณ 13%
แต่เมื่อสัมผัสกับสภาพอากาศและมลภาวะสควาลีนจะทำปฏิกิริยาออกซิเดชั่น และทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื่นนั่นเอง ตรงกันข้ามกับ “สควาเลน” ซึ่งเป็นอนุพันธ์อิ่มตัวของสควาลีนที่ได้จากแหล่งเดียวกัน
นำมาเติมไฮโดรเจนหรือการทำให้สควาลีน "อิ่มตัว" และกลายเป็นสควาเลน
ซึ่งจะล็อคความชุ่มชื่นและปกป้องผิวจากการสูญเสียความชุ่มชื่นระหว่างวัน โดยน้ำมันทั้งสองชนิดนี้มีคุณสมบัติเด่นในการต้านอนุมูลอิสระและเป็นมอยส์เจอไรเซอร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ผิวของเราคุ้นเคยอย่างมาก
โดยเฉพาะสควาเลนจากสารสกัดของอ้อยที่ค้นพบในบราซิล
ถือเป็นแหล่งผลิตสควาเลนคุณภาพเยี่ยมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวอิ่มฟูและล็อคความชุ่มชื่นในผิวยาวนานตลอดวัน
ผิวจึงไม่แห้งกร้าน ไม่หมองคล้ำ และริ้วรอยดูเลือนจางอย่างเป็นธรรมชาติ ทำไมคนผิวแห้งและผิวอ่อนแอต้องแคร์
“Squalane” ด้วยล่ะ?
อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า
สควาเลนเป็นน้ำมันบำรุงผิวหน้าที่ดีที่สุดจากธรรมชาติ
จึงเป็นส่วนผสมหลักที่คนผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ ผิวไวต่อการระคายเคือง และทุกสภาพผิวควรให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ
เลยก็ว่าได้ค่ะ คุณสามารถพบสควาเลนได้ในหลายผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นคลีนเซอร์
เซรั่ม จนถึงโลชั่นบำรุงผิว เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ในคอลเล็กชั่นใหม่ล่าสุด! Truly Glowing ของ Burt’s
Bees ผู้นำผลิตภัณฑ์จากส่วนผสมธรรมชาติยอดนิยมอันดับหนึ่งจากอเมริกา
และผลิตภัณฑ์ที่แพทย์ผิวหนังชั้นนำในอเมริกาไว้วางใจ
ที่มีส่วนผสมหลักจาก “Plant-based Squalane” เพื่อช่วยให้คุณเป็นเจ้าของผิวอิ่มฟู
ชุ่มชื่น เรียบเนียน และเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ >> https://bit.ly/3H1w5DF
New Hive members receive free shipping on your next purchase!
Become a Hive Member to be the first to learn about special offers, helpful tips and the latest buzz.